: มีเงินเท่าไหร่จึงจะพอซื้อบ้าน : meng August 12, 2009, 11:07:15 AM พูดถึงการซื้อบ้าน ตามโครงการนะครับ
มาดูกันเป็นความรู้และเตรียมตัวไว้ก่อน ซื้อบ้าน 1. ดูราคาบ้านที่มีขายในตลาดว่าราคาเท่าใด จะซื้อได้หรือไม่ ก่อนที่จะทำการวางแผนการเงินในการซื้อบ้าน ขอให้คุณทำความเข้าใจหลักการเบื้องต้นของการที่จะได้บ้านเป็นของตนเองสักนิดหนึ่งก่อน โดยทั่วไปคนไทยเราทุกคนถือว่ามีบ้านอยู่อาศัยแล้วทั้งสิ้น โดยอาจจะอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ญาติ พี่น้องหรือเช่าบ้านอยู่คงไม่มีใครที่ไร้บ้าน (homeless) จนต้องอาศัยหลับนอนอยู่ตามฟุตบาท หรือตามใต้สะพานดังในบางประเทศที่ยากจนและมีประชากรมาก อย่างอินเดีย บังคลาเทศ เป็นต้น ในบ้านเมืองเราทุกคนมีบ้านอยู่อาศัยแม้ว่าจะเป็นบ้านที่มีมาตรฐานต่ำก็ตามเช่น อาศัยอยู่ในชุมชนบุกรุกในชุมชนแออัด เป็นต้น ทั้งนี้ เพราะการมีบ้านถือเป็นปัจจัยสี่ของชีวิต ทุกคนเกิดมาแล้ว ต้องแสวงหาบ้าน เพราะมี "ความจำเป็นในการอยู่อาศัย" (Housing Need) ไม่ว่าบ้านนั้นจะมีคุณภาพต่ำเพียงใดก็ตามแต่ แม้จะมีบ้านอาศัยอยู่แล้ว หากไม่ได้เป็นบ้านของตนเอง ทุกคนก็มักจะดิ้นรนเพื่อแสวงหาบ้านมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองให้ได้ เพื่อความรู้สึกที่มั่นคงในชีวิตเรียกว่ามี "ความต้องการได้บ้านเป็นของตนเอง" (Housing Want) ปัจจุบันในบ้านเมืองเรา โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีบ้านหลากหลายชนิด ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าสและห้องชุด โฆษณาขายอยู่มากมาย นับเป็นหมื่นเป็นแสนหลัง มีราคาขายตั้งแต่ประมาณ 2 แสนบาทเศษๆ จนถึงหลังละหลายล้านบาท ทั้งที่เป็นบ้านในโครงการที่เปิดตัวใหม และบ้านมือสอง หากมีการสอบถามผู้คนโดยทั่วไปว่า "คุณอยากมีบ้านแบบไหน" คนโดยมากมักจะนึกถึงบ้านที่อยู่ในความฝันของตน นั่นคืออยากจะมี "บ้านเดี่ยว" เป็นของตนเองแทบทั้งสิ้น แต่ความอยาก ความใฝ่ฝันนั้นจะเป็นจริงขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อ "มีเงินพอที่จะซื้อได้" (Affordability) หากไม่มีเงินพอแล้ว ความใฝ่ฝันนั้นก็เป็นเพียง "ความอยาก" อยู่นั่นเองไม่ใช่เป็น "ความต้องการบ้านที่มีอำนาจซื้อได้" (Housing Demand) แต่ประการใด คำว่ามีเงินพอที่จะซื้อได้ในที่นี้ มิได้หมายถึงว่า คุณจะต้องมี "เงินสด" ที่จะซื้อบ้านแต่ประการใด แต่หมายถึงว่า คุณจะต้องมี "อำนาจซื้อ (Purchasing Power) ซึ่งได้แก่ การมี "เงินออม" ประมาณร้อยละ 20 - 30 ของราคาบ้าน เพื่อเป็นค่าวางเงินจองเงินทำสัญญา และเงินผ่อนดาวน์ตามที่ผู้ขายกำหนด ส่วนที่เหลือประมาณร้อยละ 70 - 80 ของราคาบ้าน คุณจะต้อง "ขอกู้" จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ทั้งนี้คุณจะต้องมี "รายได้" มากพอที่จะ "ผ่อนเงินงวดรายเดือน" ได้ทุกเดือนเป็นเวลานานประมาณ 15-30 ปี ตามที่ธนาคารส่วนใหญ่ให้กู้กันในปัจจุบัน การที่จะซื้อบ้านเป็นของตนเองสักหลังหนึ่ง โดยเฉพาะบ้านหลังแรก จึงไม่ใช่เริ่มต้นที่การมองหาบ้านที่สวยหรูอยู่ในฝัน เช่น เป็นบ้านเดี่ยวอยู่ริมทะเลสาบ ใกล้สนามกอล์ฟ เป็นต้น เพราะบ้านเหล่านั้นมักจะราคาแพงมาก จนคนทั่วไปซื้อไม่ได้ หากซื้อไม่ได้ ก็เป็นเพียงความฝันอยู่นั่นเอง : Re: มีเงินเท่าไหร่จึงจะพอซื้อบ้าน : meng August 12, 2009, 11:08:23 AM 2. วิธีการประเมินกำลังเงินว่าจะซื้อบ้าน และผ่อนบ้านได้หรือไม่
โดยทั่วไปผู้ซื้อบ้านมักจะมีเงินเก็บออมส่วนหนึ่ง ซึ่งมักจะไม่เพียงพอที่จะซื้อบ้านได้ด้วยเงินสด ดังนั้น เงินที่ขาดจึงต้องอาศัยกู้เอาจากธนาคาร หรือสถาบันการเงินต่างๆ แต่เนื่องจากสถาบันเหล่านี้ มักจะให้กู้เพียงประมาณร้อยละ 70-80 ของราคาซื้อขาย หรือมูลค่าประเมินของบ้าน (พร้อมที่ดิน) ดังนั้น ผู้ซื้อบ้านจะต้องมีเงินเก็บออมอย่างน้อยร้อยละ 20-30 ของราคาบ้านจึงจะสามารถกู้เงินและซื้อบ้านได้ เงินที่เก็บออมร้อยละ 20-30 นี้เอง ที่ผู้ซื้อมักจะต้องจ่ายเป็น "เงินดาวน์" ในการซื้อบ้าน หากบ้านยังสร้างไม่เสร็จ เจ้าของโครงการมักจะให้เราผ่อนเป็นงวดๆได้ในเวลาประมาณ 5-18 เดือน ในการวางแผนการเงินเพื่อซื้อบ้าน คุณอาจเริ่มต้นจากวิธีใดวิธีหนึ่งใน 2 วิธี คือ วิธีที่หนึ่ง คุณทราบราคาบ้านที่จะขายแล้วมาคำนวณว่าคุณจะซื้อและผ่อนได้หรือไม่ ? วิธีการนี้ เริ่มมาจากการที่มีผู้เสนอขายบ้านให้คุณ หรือคุณทราบ "ราคาบ้าน" ที่ประกาศขายว่าเป็นเงินเท่าใดแล้ว คุณมีข้อสงสัยว่าคุณมีเงินพอที่ซื้อหรือผ่อนบ้านนั้นได้หรือไม่ ในการประมาณการทางการเงิน คุณจะต้องเริ่มโดยพิจารณาว่า คุณมีเงินเก็บออมหรือมีเงินดาวน์พอที่จะจ่ายให้กับเจ้าของโครงการหรือไม่ คุณต้องกู้เงินจากธนาคารในวงเงินสูงสุดได้เท่าใด จะต้องผ่อนชำระเงินงวดเดือนละเท่าใด คุณสามารถผ่อนได้หรือไม่ ตัวอย่างเช่น หากคุณเล็งที่จะซื้อบ้านที่ราคาถูกประเภททาวน์เฮาส์ ขณะนี้ราคาประมาณ 625,000 บาท หากธนาคารให้กู้ร้อยละ 80 ของราคาขาย นั่นหมายความว่าให้กู้ได้เป็นเงิน 500,000 บาท ส่วนที่เหลือคือจำนวนเงิน 125,000 บาท คุณจะต้องมีเงินเก็บหรือต้องผ่อนดาวน์มาแล้ว ซึ่งอย่างน้อยที่สุดคือร้อยละ 20 ของราคาบ้านที่จะซื้อนั่นเอง การกู้เงินจำนวน 500,000 บาท หากคุณต้องผ่อนชำระนาน 20 ปี ก็จะต้องผ่อนประมาณเดือนละ 3,728 บาท หากธนาคารคิดดอกเบี้ยร้อยละ 6.5 ต่อปี (แต่ถ้าอัตราดอกเบี้ยสูงกว่านี้ เงินงวดรายเดือนก็จะสูงตามไปด้วย) และหากกู้ระยะเวลาสั้นลงเท่าใด เงินงวดก็จะสูงมากขึ้นเท่านั้น เช่น หากเลือกกู้นาน 15 ปี หรือ 10 ปี เงินงวดก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นเดือนละ 4,356 บาท และ 5,677 ตามลำดับ เมื่อทราบจำนวนเงินที่จะต้องผ่อนเดือนละเท่านั้นเท่านี้แล้ว คุณก็ต้องมาประเมินดูว่าคุณมีรายได้เพียงพอที่จะผ่อนชำระเงินงวดได้ตลอดระยะเวลากู้หรือไม่ โดยหลักแล้ว หากคุณมีรายได้น้อย คุณก็ต้องเลือกผ่อนในระยะเวลาที่นานขึ้นอาจจะเป็นระยะ 20-25 ปี เพื่อให้เงินงวดที่จะผ่อนมีจำนวนลดลง ดังนั้น หากคุณสามารถสะสมเงินมาดาวน์บ้านได้ประมาณร้อยละ 20-30 ของราคาบ้านและสามารถผ่อนส่งเงินกู้ได้ตามเงินงวดที่ระบุ คุณก็จะสามารถซื้อบ้านหลังนั้นได้ สำหรับบ้านประเภทอื่น ต้องผ่อนดาวน์เท่าใด ต้องกู้เงินจำนวนเท่าใด ค่าผ่อนชำระจะเป็นเท่าใด คุณอาจดูได้จากตารางที่เจ้าของโครงการ หรือที่ธนาคารจัดทำขึ้น หรืออาจดูได้จากหนังสือคู่มือการซื้อบ้านที่มักจะมีอัตราดอกเบี้ยและตารางอัตราการผ่อนชำระเงินงวดให้ผู้ซื้อพิจารณาได้ : Re: มีเงินเท่าไหร่จึงจะพอซื้อบ้าน : meng August 12, 2009, 11:12:49 AM วิธีที่สอง
คุณทราบรายได้ของคุณแล้วมาคำนวณว่าคุณจะซื้อบ้านได้แบบใด ในราคาใดได้บ้าง ? ในกรณีที่คุณทราบ "รายได้" ของคุณว่ามีเท่าใด และอยากทราบว่ารายได้ดังกล่าวนั้น สามารถจะซื้อบ้านในระดับราคาประมาณเท่าใด คุณก็สามารถคิดคำนวณได้ไม่ยากตัวอย่างเช่น หากคุณมีรายได้ประมาณเดือนละ 20,000 บาท คุณอยากรู้ว่าธนาคารจะให้คุณกู้ได้ในวงเงินเท่าใด และจะซื้อบ้านในราคาประมาณเท่าใด วิธีการคำนวณคือ ในขั้นแรก คุณต้องประมาณการว่ารายได้ที่ตนมีอยู่นั้นสามารถกู้เงินจากธนาคารได้ในวงเงินเท่าใด หรือคุณสามารถจะผ่อนชำระหนี้ได้เดือนละเท่าใด จากนั้น เมื่อทราบวงเงินกู้ ก็สามารถคำนวณราคาบ้านที่จะซื้อได้ โดยทั่วไป ธนาคารมักจะให้กู้ในวงเงินประมาณ 15 - 30 เท่าของรายได้โดยหากมีรายได้เป็นเงินเดือนประจำที่แน่นอน เช่น เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือพนักงานของบริษัทเอกชน ธนาคารอาจให้กู้ได้ถึง 25 - 30 เท่า แต่หากประกอบอาชีพอิสระที่มีรายได้ไม่แน่นอน ธนาคารอาจให้กู้ได้ไม่เกิน 20 เท่าของ รายได้เฉลี่ยรายเดือนหักค่าใช้จ่ายแล้วเท่านั้น โดยเฉลี่ยแล้ว ธนาคารจะให้กู้ในวงเงินสูงประมาณ 25 เท่าของรายได้ : Re: มีเงินเท่าไหร่จึงจะพอซื้อบ้าน : patty February 04, 2011, 14:19:52 PM กูธนาคาร ส่วนใหญ่เวลาซื้อบ้านของคนทั่วไป ก็ต้องกูธนาคาร :'(
: Re: มีเงินเท่าไหร่จึงจะพอซื้อบ้าน : seobee July 18, 2011, 13:31:17 PM ข้อมูลดีมากครับ
: Re: มีเงินเท่าไหร่จึงจะพอซื้อบ้าน : Nom sud July 21, 2011, 19:56:40 PM มาหาข้อมูล ซื้อบ้านเหมือนกัน
ขอบคุณ คะ : Re: มีเงินเท่าไหร่จึงจะพอซื้อบ้าน : เธชเธกเธฃ August 31, 2011, 12:54:15 PM ซ่อมบ้านด้วย
: Re: มีเงินเท่าไหร่จึงจะพอซื้อบ้าน : kit777 April 19, 2012, 15:22:06 PM มนุษย์เงินเดือน ธรรมดา ๆ จะซื้อบ้านนี่เรื่องใหญ่สุด ๆ
|